Thursday 29th August 2019
❤ ความรู้ที่ได้รับ
บทที่
3 การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
คำศัพท์
• One-Way Communication → การสื่อสารทางเดียว
• Two-way Communication → การสื่อสารสองทาง
• Verbal Communication → การสื่อสารเชิงวัจนะภาษา
• Non-Verbal Communication → การสื่อสารเชิงอวัจนะภาษา
• personal Communication → การสื่อสารส่วนบุคคล
• Intrapersonal Communication → การสื่อสารระหว่างบุคคล
• Mass Communication → การสื่อสารมวลชน
• Channel → ช่องทางการส่งสาร
• Clarity of audience → ความสามารถของผู้รับสาร
• Clearly → ความชัดเจน
ก่อนเรียนอาจารย์มีเกมทดสอบพวกเราก่อนที่จะเข้าเนื้อหา เป็น
เกมการนับตัวอักษร ตัว F ว่ามีอยู่กี่ตัวในประโยค
ก่อนเรียนอาจารย์มีเกมทดสอบพวกเราก่อนที่จะเข้าเนื้อหา เป็น
เกมการนับตัวอักษร ตัว F ว่ามีอยู่กี่ตัวในประโยค
➤ ความหมายของการสื่อสาร
- การสื่อสาร (Communication) คือ กระบวน
การส่งข่าวสาร
ข้อมูล
จาก ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร
มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับ
ข่าวสาร
มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้
ส่งต้องการ
- การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ
ทักษะ
และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจ
ที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข
➤ ความสำคัญของการสื่อสาร
1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
5.ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์
เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง
ก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
➤ รูปแบบของการสื่อสาร
ต่อมาอาจารย์ได้ให้เล่นเกมที่เกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อให้เราได้นำ
ไปใช้ในตอนที่ไปให้ความรู้ผู้ปกครอง
เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร
เกมสื่อความหมาย
ใบ้คำโดยการทำท่าทางต่อกันไปเรื่อยๆ
โดยไม่ส่งเสียงหรือพูดอะไร
นอกจากทำท่าทางอย่างเดียว ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ทีละคน
จนถึงคน
สุดท้ายให้เพื่อนคนสุดท้ายทายว่าท่าทางที่ทำนั้นคืออะไร
เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร
เกมทายคำ
ใบ้คำที่เพื่อนถือไว้บนหัวโดยพูดประโยคอะไรก็ได้เพื่อให้ได้คำตอบโดยห้าม มีคำที่เป็นคำตอบหลุดออกมา
ถ้ามีคำใบที่เป็นคำตอบ
ถือว่าคำนั้นไม่ได้
เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร
เกมพรายกระซิบ
คนแรกอ่านและจดจำประโยคแล้วกระซิบบอกต่อไปยังเพื่อนคนที่ 2 คนที่ 2 ไปคนที่ 3 ส่งต่อไป เรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้าย แล้วคนสุดท้ายบอกประโยคที่ได้ยินมาว่าเป็นอะไร
คนแรกอ่านและจดจำประโยคแล้วกระซิบบอกต่อไปยังเพื่อนคนที่ 2 คนที่ 2 ไปคนที่ 3 ส่งต่อไป เรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้าย แล้วคนสุดท้ายบอกประโยคที่ได้ยินมาว่าเป็นอะไร
เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร
เกม
ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร กับใคร
จับกลุ่มให้ได้กลุ่มละ 6 คน โดยเรียงลำดับตามหมายเลย 1-6 คนที่ 1 เขียน ใคร (สมมติมา 1 คนว่าเป็นใคร) คนที่ 2 เขียน (เขียนทำอะไร กิริยาที่ทำอะไรก็ได้) เขียนตามลำดับหมายเลขจนครบทุกคน แล้วนำประโยคของแต่ละหมายเลขมาอ่านเป็นประโยค
จับกลุ่มให้ได้กลุ่มละ 6 คน โดยเรียงลำดับตามหมายเลย 1-6 คนที่ 1 เขียน ใคร (สมมติมา 1 คนว่าเป็นใคร) คนที่ 2 เขียน (เขียนทำอะไร กิริยาที่ทำอะไรก็ได้) เขียนตามลำดับหมายเลขจนครบทุกคน แล้วนำประโยคของแต่ละหมายเลขมาอ่านเป็นประโยค
➤ องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง
➤ ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
- ผู้จัดกับผู้ชม
- ผู้พูดกับผู้ฟัง
- ผู้ถามกับผู้ตอบ
- คนแสดงกับคนดู
- นักเขียนกับนักอ่าน
- ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
- คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน
➤ สื่อ
ใช้วิธีพูด-เขียน
หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ
รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ
โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ
เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ
แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน
คลื่นวิทยุ
โทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า
สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อ
หลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน
ต้องใช้ทั้งหนังสือ
กระดาน ภาพ
➤ สาร
คือ เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน
ไม่ว่าจะเป็น ข้อเท็จจริง ข้อแนะนำ
การล้อเลียน ความปรารถนาดี ความห่วงใย
มนุษย์จะแสดงออกมา
ให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ และสภาพ
แวดล้อมต่างๆในสังคม
➤ วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1.
เพื่อแจ้งให้ทราบ หมายถึง การสื่อสารที่ผู้ส่งสารจะแจ้ง หรือบอก
กล่าวข่าวสาร
ข้อมูล เหตุการณ์ ความคิด ความต้องการของตนให้
ผู้รับได้ทราบ
2.
เพื่อสอนหรือให้การศึกษา หมายถึง
การสื่อสารที่มุ่งจะให้ผู้รับมีการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านองค์ความรู้ ความคิด
สติปัญญา
ฉะนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนหรือการศึกษาค้นคว้าทาง
วิชาการโดยเฉพาะ
3.
เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง หมายถึง
การสื่อสารที่มุ่ง
ให้เกิดผลทางจิตใจหรืออารมณ์ ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร
ซึ่งจะเกิดขึ้นก็
ต่อเมื่อผู้ส่งสารมีข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับสาร
และมีกลวิธีในการนำเสนอเป็นที่พอใจ
4.
เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ มุ่งเน้นให้ผู้รับสารมีพฤติกรรมคล้อยตาม
หรือยอมรับปฏิบัติตาม
➤ ประเภทของการสื่อสาร
ได้มีจำแนกประเภทของการสื่อสารไว้แตกต่างกันหลายลักษณะ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการจำแนก
ในที่นี้จะแสดง
การจำแนกประเภทของการสื่อสาร โดยอาศัยเกณฑ์ในการจำแนกที่
สำคัญ 3 ประการ
คือ
1.
จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร
1.1
การสื่อสารทางเดียว (One-Way
Communication) คือการ
สื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว
โดยไม่มี
การตอบโต้กลับจากฝ่ายผู้รับ เช่น การสื่อสารผ่านสื่อ วิทยุ โทรทัศน์
หนังสือพิมพ์ การออกคำสั่งหรือมอบหมายงานโดย ฝ่ายผู้รับไม่มี
โอกาสแสดงความคิดเห็น
ซึ่งผู้รับอาจไม่เข้าใจข่าวสาร หรือเข้าใจไม่
ถูกต้องตามเจตนาของผู้ส่งและทางฝ่ายผู้ส่งเมื่อไม่ทราบปฏิกิริยา
ของผู้รับจึงไม่อาจปรับการสื่อสารให้เหมาะสมได้
การสื่อสารแบบนี้
สามารถทำได้รวดเร็วจึงเหมาะสำหรับการสื่อสารในเรื่องที่เข้าใจง่าย
1.2
การสื่อสารสองทาง (Two-way
Communication) คือการ
สื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร
ดังนั้นผู้
สื่อสารแต่ละฝ่ายจึงเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับในขณะเดียวกัน
ผู้สื่อสารมี
โอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหว่างกัน
ทำให้ทราบผลของการ
สื่อสารว่าบรรลุจุดประสงค์หรือไม่
และช่วยให้สามารถปรับพฤติกรรม
ในการสื่อสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ตัวอย่างการสื่อสารแบบ
สองทาง เช่น การพบปะพูดคุยกัน การพูดโทรศัพท์
การออกคำสั่ง
หรือมอบหมายงานโดยฝ่ายรับมีโอกาสแสดงความคิดเห็น
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
2.1
การสื่อสารเชิงวัจนะ
(Verbal
Communication) หมายถึงการ
สื่อสารด้วยการใช้ภาษาพูด
หรือเขียนเป็นคำพูด ในการสื่อสาร
2.2
การสื่อสารเชิงอวัจนะ
(Non-Verbal
Communication) หมายถึง
การสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น
เช่น ภาษาท่าทาง การ
แสดงออกทางใบหน้า สายตา ตลอดจนถึงน้ำเสียง ระดับเสียง
ความเร็วในการพูด เป็นต้น
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
กิจกรรม
ต่างๆ ของบุคคลและสังคม
ถือว่าเป็นผลมาจากการ
สื่อสารทั้งสิ้น
ดังนั้นการสื่อสารจึงมีขอบข่ายครอบคลุมลักษณะการ
สื่อสารของมนุษย์ 3 ลักษณะคือ
3.1
การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal
Communication)
3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล
(Interpersonal
Communication)
3.3 การสื่อสารมวลชน
(Mass
Communication)
➤ การสื่อสารกับตนเอง
- การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
- การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
- เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
- บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
- บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
- อาจเป็นการปลอบใจตนเอง
การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้
ปัญหาใดๆ
➤ การสื่อสารระหว่างบุคคล
- บุคคลตั้งแต่
2
คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
- เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล
อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่
ผู้อื่น
- อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
- สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น
➤ การสื่อสารสาธารณะ
- มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
- มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์
ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
- เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
เช่น การบรรยาย การปาฐกถา การอมรม การสอนในชั้นเรียน
➤ การสื่อสารในครอบครัว
- เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
- ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกใน
ครอบครัว
- คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดี
งามเสมอ
- ต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
- คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีงามอยู่เสมอ
➤ การสื่อสารในโรงเรียน
- ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย
- เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการ
พื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต
- มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล
การสื่อสารในกลุ่มและการสื่อสาร
สาธารณะ
- อาจใช้เวลานานเพราะเรื่องราวมีปริมาณมาก
- อาจมีโอกาสโต้แย้งถกเถียง
ควรยอมรับข้อเท็จจริงและไม่ใช้
อารมณ์
- ข้อเท็จจริงและข้อสรุปบางเรื่องไม่ควรนำไปเผยแพร่
- ควรระมัดระวังคำพูดและกิริยามารยาท
- คุณธรรมด้านความซื่อสัตย์และการยอมรับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญ
➤ การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป
- เริ่มด้วยการทักทายตามสภาพของสังคมนั้นๆ
- การแสดงความยินดีหรือเสียใจ ไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป
- การติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนควรพูดให้ตรงประเด็นและสุภาพ
พอควร
- การคบหากับชาวต่างประเทศ ควรศึกษาประเพณีและมารยาทที่
สำคัญๆของกันและกัน
➤ ธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
ออเออร์บาค (Auerbach,1968)
ได้กล่าวถึงธรรมชาติของผู้ปกครองไว้
ดังนี้
- ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้
- ผู้ปกครองมีความต้องการที่จะเรียนรู้
- ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาสนใจ
- การเรียนรู้จะมีความหมายที่สุดก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผู้
ปกครอง
- การมีอิสระในการเรียนรู้จะทำให้ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุด
- ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้จากกันและกัน
- การให้ความรู้กับผู้ปกครองถือเป็นการให้ประสบการณ์ใหม่แก่ผู้
ปกครอง
➤ อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร
-ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี
เช่นใช้ภาษาที่อยากแก่การ
เข้าใจ หรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
- ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
- ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์
ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
- ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
- เลือกใช้เครื่องมือในการส่งข่าวสารไม่เหมาะสม
- รีบเร่งด่วนสรุปข่าวสารเร็วเกินไป
ขาดการไตร่ตรอง
- ผู้รับข่าวสารไม่ทบทวน
หรือสอบถามให้เข้าใจเมื่อสงสัย
➤ 7 c กับการสื่อสารที่ดี
Credibility
ความน่าเชื่อถือ :
สามารถทำให้ผู้รับสารเกิดความเชื่อถือ
ในสารนั้น ๆ
Content
เนื้อหาสาระ :
มีสาระให้เกิดความพึงพอใจ
เร่งเร้าและชี้แนะ
ให้เกิดการตัดสินใจได้ในลักษณะอย่างไรบ้าง
Clearly
ความชัดเจน :
การเลือกใช้คำหรือข้อความที่เข้าใจง่าย ๆ
ข้อความไม่คลุมเครือ
Context
ความเหมาะสมกับโอกาส :
การเลือกใช้ภาษาและใช้สิ่งที่ส่ง
สารเหมาะสม
Channel
ช่องทางการส่งสาร :
การเลือกวิธีการส่งข่าวสารได้เหมาะสม
และรวดเร็วที่สุด
Continuity
consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน :
การสื่อสาร
กระทำอย่างต่อเนื่องมีความแน่นอนถูกต้อง
Clarity
of audience ความสามารถของผู้รับสาร :
การเลือกใช้วิธีการ
ส่งสารซึ่งมั่นใจว่าผู้รับสารจะสามารถรับสารได้ง่ายและสะดวกโดย
คำนึงถึงความรู้
เจตคติ อุปนิสัย ทักษะการใช้ภาษา สังคมวัฒนธรรม
ของผู้รับสารเป็นสำคัญ
➤ คุณธรรมที่สำคัญในการสื่อสาร
- ความมีสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน
- ความรัก
ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน
- ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ
- เป็นพฤติกรรมด้านนอกของการสื่อสาร
หมายถึงพฤติกรรมที่ปรากฏ
ให้เห็นชัดเจน เช่นกิริยาอาการ การเปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ
การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้ง รูปภาพ
แผนภูมิและการใช้วัตถุ
ต่างๆ
- เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อยถูกต้องตามคตินิยมของสังคม
➤ วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
- ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
- พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา
และหาแนวทางตอบสนอง
ตามความเหมาะสม
- พูดคุย
พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
- หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา
เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
- ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
- มีท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ
- เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม
การสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพนับเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้
งานการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ
ผู้ที่เป็นครูจะต้อง
ทำความเข้าใจเรื่องการสื่อสารให้กระจ่างชัดเจน
ประกอบกับการ
ศึกษาธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครอง พฤติกรรมการเรียนรู้
เพื่อที่จะได้ทำการให้ความรู้ให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองได้ดีมี
ประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา
เชื่อมั่นและมี
ความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับ
ความร่วมมือจากผู้ปกครอง
บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามี
บทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง
ควร
เป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ
4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ
5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง
เพื่อให้
ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
ประกอบด้วยปัจจัย
ด้านใดบ้าง
ตอบ
❤ การประเมินผล
ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียนและฟังที่อาจารย์สอน มีความสุขกับ
กิจกรรมที่เรียน
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจฟังอาจารย์ ร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุก
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สอนดี ชัดเจนและเข้าใจง่าย มีกิจกรรมมา
ให้นักศึกษาทำให้ไม่เบื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น